การหลับพักผ่อน อย่างเต็มที่ ให้ผลตอบแทน ที่คุ้มค่าจริงๆ
 
ผลวิจัยชี้ให้เห็นว่า การได้พักผ่อนอย่างเต็มที่นั้นช่วยให้มูลค่าของคนเพิ่มมากขึ้น ทั้งในด้านของประสิทธิผลที่เกิดขึ้นในการทำงาน และผลตอบแทนจากการลงทุนต่างๆ
 
ภาพของบุคคลที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานที่คนส่วนใหญ่มี คือ มนุษย์ที่อยู่รอดได้ด้วยการนอนเพียงน้อยนิด เขาหรือเธอตื่นนอนก่อนฟ้าสาง ทำงานจนถึงดึกดื่น และยังตอบอีเมล์อยู่ตอนตีสอง
 
 
แน่นอนว่า มีมนุษย์อย่างนั้นอยู่บนโลกใบนี้จริง มาการ์เร็ต แธ็ตเชอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร คือตัวอย่างของคนอย่างที่ว่า เธอสามารถทำงานได้ แม้ว่าจะนอนเพียงคืนละไม่กี่ชั่วโมง เจ้าของธุรกิจและผู้ค้าหุ้นในวอลล์สตรีทก็ดูเหมือนจะทำได้เช่นเธอ

แต่ถ้าคุณคิดว่าคุณจำเป็นที่จะต้องใช้ชีวิตอย่างนั้น เพื่อที่จะก้าวหน้า คุณควรคิดใหม่อีกครั้ง การวิจัยจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ได้ชี้ให้เห็นว่า คนที่นอนหลับอย่างเพียงพอ มักจะเป็นคนที่มีประสิทธิผลมากกว่าในการทำงาน คนเหล่านั้นคิดได้ชัดแจ้งกว่า เร็วกว่า และมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าผู้ที่พยายามอยู่รอดให้ได้ ด้วยการนอนเพียงคืนละไม่กี่ชั่วโมง และปริมาณคาเฟอีนอันมหาศาลในแต่ละวัน

นั่นเป็นเพราะว่า การนอนไม่เพียงแต่เป็นการให้โอกาสสมองในการพักผ่อนเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่สำคัญยิ่งที่สมองจะได้ซ่อมแซมตนเองอย่างเต็มที่ สมองที่ได้รับการนอนที่ไม่เพียงพอ ไม่สามารถที่จะทำหน้าที่ได้ดีเท่ากับสมองที่ผ่านการพักผ่อนอย่างพอเพียง

“ไม่เป็นที่สงสัยเลยว่าการอดหลับอดนอนส่งผลกระทบกับความสามารถในการทำงาน” ซาฟวาน บาดร์ (Safwan Badr) อดีตประธานแห่งสถาบันวิทยาศาสตร์การนอนอเมริกัน (American Academy of Sleep Medicine) ที่ปัจจุบันประจำอยู่ที่ศูนย์การแพทย์ดีทรอยต์ (Detroit Medical Centre) กล่าว “มีหลักฐานจำนวนมากยืนยันว่าการอดนอนทำให้คุณมีประสิทธิผลต่ำลง”
 
 
นักลงทุนทั้งหลาย โปรดระวัง
 
นักลงทุนทั้งหลายควรตระหนักว่า การอดหลับอดนอน ส่งผลร้ายต่อการตัดสินใจในการลงทุนและการประเมินความเสี่ยง

ชาลส์ ซีสเลอร์ (Charles Czeisler) ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนแห่งโรงพยาบาล Brigham & Women’s ในเมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา ให้ความเห็นว่า “การอดนอนทำให้ความสามารถของระบบประสาทต่ำลงพอๆ กับการดื่มสุรา” แมทธิว กิบสัน (Matthew Gibson) และ เจฟฟรีย์ ชเรเดอร์ (Jeffrey Shrader) นักวิจัยแห่งคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก้ (University of California, San Diego) ได้เปรียบเทียบค่าแรงที่ประชากรในสหรัฐเมริกาได้รับจากการทำงานกับเวลาที่ใช้ในการนอน โดยใช้ผลสำรวจการใช้เวลาของประชากรในสหรัฐอเมริกาที่จัดทำขึ้น โดยหน่วยสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐอเมริกา ซึ่งผลการเปรียบเทียบแสดงให้เห็นว่า โดยเฉลี่ยแล้ว หากคนๆ หนึ่งนอนเพิ่มขึ้น 1 ชั่วโมงต่อคืน ในระยะยาวแล้วคนๆ นั้นจะได้รับค่าแรงเพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้นอนเพิ่มขึ้นเลย

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ผู้ใหญ่จะต้องนอนคืนละ 8 ชั่วโมงโดยเฉลี่ย แน่นอนว่าทุกคนต้องการนอนไม่เท่ากัน แต่ความต่างของความต้องการในด้านนี้ของแต่ละบุคคลนั้น น้อยกว่าที่คนทั่วไปคิด คนที่คิดว่าสามารถทำงานได้เป็นอย่างดีแม้ว่าจะอดนอนนั้น น่าจะกำลังหลอกตัวเองอยู่ ดร. ชาลส์ ซีสเลอร์ กล่าวว่า ในเชิงสถิติแล้ว จำนวนผู้ใหญ่ที่สามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ แม้ว่าจะนอนเพียงคืนละแค่ 5 ชั่วโมงหรือน้อยกว่านั้น “แทบจะเป็น 0”

คนทั่วไปอาจจะหลอกตัวเองได้ง่ายๆ การวิจัยชี้ให้เห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่คนที่เหนื่อยล้าจากการอดนอนจะสามารถอดทนเพื่อให้ผ่านวันหนึ่งๆ ในที่ทำงานได้ เช่น สามารถร่วมประชุมได้ อ่านรายงานต่างๆ รู้เรื่อง และทำหน้าที่ประจำอื่นๆ ได้

องค์กรต่างๆ ในปัจจุบันมักจะกดดันให้บุคลากรที่สำคัญต้องนอนน้อยลง ต้องทำงานแต่ละวันนานกว่าเดิม และต้องทำตัวให้ติดต่อได้ในเวลาค่ำคืน แต่การนอนหลับที่ไม่เพียงพอนี้ส่งผลกระทบต่อความสามารถระดับสูงของสมอง การวิจัยค้นพบว่า เมื่อเราเหนื่อยล้า เราจะพบว่ามันเป็นการยากที่เราจะมีความคิดที่สร้างสรรค์ นอกกรอบ มันยากที่เราจะปรับความคิดของเราให้เข้ากับข้อมูลใหม่ๆ หรือเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ความเหนื่อยล้าจะเป็นอุปสรรคต่อการตัดสินใจที่ดีในสถานการณ์ที่มีความไม่ชัดเจนสูง นอกจากนี้ การที่เราเหนื่อยจะทำให้อารมณ์ของเราแปรปรวนได้ง่าย หงุดหงิดง่าย และเข้ากับคนอื่นได้ยากขึ้น

ในปี ค.ศ. 1999 วอนน์ แฮริสัน (Yvonne Harrison) และ เจมส์ ฮอร์น (James Horne) นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยลอฟบอเรอะ (Loughborough University) ในประเทศอังกฤษ ได้ทำการทดลองเพื่อหาผลกระทบที่เกิดขึ้น เมื่อคนที่มีอายุน้อยที่มีสุขภาพดีต้องอดนอน โดยผู้ที่เข้าร่วมการวิจัยจะต้องเล่นเกมที่สะท้อนถึงสถานการณ์ทางธุรกิจที่มีความซับซ้อน

การวิจัยพบว่า กลุ่มผู้เข้าร่วมวิจัยที่อดนอนสามารถอ่านข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเกมได้ แต่เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเล่นเกมจริงๆ แล้ว คนที่อดนอนเล่นอะไรไม่รู้เรื่องเลย

โดยสรุปแล้ว ถ้าคุณเป็นพนักงานบริษัท การอดนอนคงไม่ทำให้คุณถูกไล่ออกจากงาน แต่มันอาจจะทำให้คุณไม่ได้ทำอะไรที่จะทำให้คุณได้เลื่อนขั้น ที่แปลกก็คือ แม้ว่าเราทุกคนต้องทำงานที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมใหม่ๆ มากขึ้นเรื่อยๆ แต่เรากลับนอนน้อยลงๆ ทุกที

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า พวกเราทุกคนตอนนี้นอนน้อยกว่าคนรุ่นปู่รุ่นย่าของเรามาก ดร. ชาลส์ ซีสเลอร์ กล่าวว่า ในปัจจุบัน คนทำงานจำนวน 20% ถึง 30% นอนน้อยกว่าคืนละ 6 ชั่วโมงต่อคืนในช่วงวันทำงาน ในขณะที่เมื่อ 50 ปีที่แล้ว มีคนนอนน้อยขนาดนี้เพียงแค่ 2-3%

ผู้เชี่ยวชาญคิดว่า การนอนที่น้อยลงนี้เป็นผลมาจากแสงไฟ นาฬิกาปลุก อินเตอร์เน็ท และสมาร์ทโฟน

ดร. ชาลส์ ซีสเลอร์ ให้ความเห็นว่า “ถ้าคุณต้องใช้นาฬิกาปลุกเพื่อที่จะได้ตื่นให้ทันเวลา ก็หมายความว่าคุณนอนไม่พอในแต่ละคืน” ผู้ป่วยบางคนที่อยู่ในการดูแลของ ดร. ชาลส์ เล่าให้ ดร. ชาลส์ ฟังว่า พวกเขาจะต้องวางโทรศัพท์มือถือไว้ข้างเตียง จะได้เช็คอีเมล์ได้ ทั้งก่อนที่จะนอน ทันทีที่ตื่นนอน และในระหว่างคืนหากเกิดตื่นขึ้น ซึ่ง ดร. ชาลส์ คิดว่า “เป็นเรื่องที่บ้าจริงๆ”

ที่มา: The Wall Street Journal